การเมืองชี้ทางรอดประเทศหรือไม่
Main

การเมืองชี้ทางรอดประเทศหรือไม่

ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองเปิดตัวกระชับฐานอำนาจเพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง มีทั้งพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันและฝ่ายค้านซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ได้เสียงในสภาฯ มากกว่าเดิม พรรคเพื่อไทยหวังจะขอย้ำซ้ำโอกาสที่จะสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์อีกรอบ แน่นอนทุกพรรคหวังจะได้เป็นรัฐบาลถึงแม้จะเป็นพรรคร่วม โดยมีเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นผลตอบแทนในการลงทุนซึ่งทุกพรรคมองว่าย่อมจะดีกว่าเป็นฝ่ายค้านซึ่ง “อดอยากปากแห้ง” ตามสภาพบรรยายด้วยอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ศึกครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่การเร่งเปิดตัวทั้งพรรคใหม่และพรรคเก่าเหมือนเป็นสัญญาณว่าการเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุอย่างอื่นที่ทำให้รัฐบาลของท่านห้าวเป้งต้องจบลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น พรรคการเมืองที่มีแกนนำหน่วยก้านดีก็หวังมาก โดยเชื่อว่าท่านห้าวเป้งคงไม่มีโอกาสได้เข้ามากุมอำนาจหลังจากเลือกตั้งรอบใหม่ ความนิยมตกต่ำโดยตลอด ผลงานไม่เข้าตาประชาชน ไม่ฟังใคร สภาพปัจจุบันเหมือนยาหมดอายุนานแล้ว ทุกฝ่ายยกเว้นทีมรัฐบาลต่างมองว่าถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปโดยรัฐบาลผู้นำห้าวเป้งขาดความรู้ความสามารถ ขาดทางออกของปัญหาที่ทำให้ประชาชนต้องลำบากยากแค้นเลือดตาแทบกระเด็นด้วยหนี้ครัวเรือน และความยากในการหารายได้ บ้านเมืองก็จะจมปลักอยู่กับวิกฤตสารพัดยากที่จะฟื้นฟูได้ง่าย เอาเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งยังแก้ไขไม่ได้ ประชาชนขาดรายได้เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา และหนี้ภาครัฐซึ่งขยายตัวเพราะรัฐบาลยังไม่สามารถหยุดการกู้เงินมุ่งแต่สร้างหนี้สิน อุดงบประมาณขาดดุลเรื้อรัง ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะเผชิญวิกฤตรุนแรงเพราะปัจจัยภายนอกประเทศเช่นราคาพลังงานที่เพิ่มไม่หยุด ทั้งพรรคแจ้งเกิดใหม่และพรรคเดิมปรับรูปแบบทั้งชื่อและกระบวนท่าก็ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจว่าจะช่วยเหลือบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤตได้ พรรคการเมืองที่อาจจะมีศักยภาพอยู่บ้างก็ขาดโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งซึ่งตัดสินด้วยเงินและเครือข่ายของหัวคะแนน คนกาเบอร์ยังต้องการสินจ้างแบบ “เงินไม่มา กาไม่เป็น” หลายพรรคการเมืองอวดอ้างความพร้อมและตัวบุคลากรว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยความรู้ความสามารถ แต่ถ้าประชาชนมองไปให้ถ้วนทั่วแล้วยังเห็นว่าความขาดแคนอย่างหนักคือคนการเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม ที่สำคัญ เป็นปัญหาด้านการยอมรับของสังคมในความซื่อสัตย์สุจริต ความตั้งใจในการทำงานเพื่อบ้านเมืองแท้จริงโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว ของพรรค คุณภาพด้านนี้ขาดแคลนอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรงทำให้การเมืองถูกมองว่าเป็นหนทางที่จะทำให้คนในวงการมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งจากการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเรื้อรังเป็นวิกฤตในประเทศซึ่งประเมินกันว่าสูงถึง 30 – 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นการสูญเปล่าของเงินงบประมาณและเงินกู้ เอามาใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองผ่านโครงการประชานิยม ทั้งถ่ายโอนเข้ากระเป๋าผู้มีอำนาจและเครือข่ายบริวาร วิกฤตด้านคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นประเด็นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในการเมืองแบบไทยๆ ซึ่งพรรคการเมืองหลายพรรคมีพฤติกรรมไม่ต่างจากองค์กรอาชญากรรม สมาชิกระดับแกนนำลงเงินลงขันกันเพื่อให้ชนะ เป็นรัฐมนตรี ก้าวไปสู่อำนาจและใช้อำนาจนั้นแสวงหาผลประโยชน์ ประชาชนไม่เคยได้เห็นเสนาบดียากจนลงหลังจากพ้นตำแหน่งสำคัญ…
Read More

หวานเจี๊ยบ!กระทู้สดเพื่อไทยถามแก้หนี้-“จุลพันธ์”ตอบคืบหน้ามาก

หวานเจี๊ยบ! กระทู้สด “รองเลขาเพื่อไทย” ถามแก้หนี้ กยศ. …